ปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยในเด็กโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด
1 ภาวะหัวใจล้มเหลว
ภาวะหัวใจล้มเหลว คือ ภาวะที่หัวใจไม่สามารถสูบฉีดโลหิตไปเลี้ยงอวัยวะและเนื้อเยื่อต่าง ๆ ของร่างกายได้อย่างเพียงพอต่อความต้องการ
สาเหตุ
1. ความผิดปกติทางกายวิภาค โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด
2. ความผิดปกติที่กล้ามเนื้อหัวใจ
3. ความผิดปกติจากจังหวะการเต้นของหัวใจ
4. สาเหตุอื่น ๆ ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ภาวะน้ำเกิน
อาการและอาการแสดงทั่วไป
เด็กเล็ก : จะเหนื่อยเวลาดูดนม ดูดนมได้ช้า และน้อย
เด็กโต : จะมีเบื่ออาหาร
– มีประวัติป่วยบ่อย มักเป็นโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ
– ชีพจรเบา เร็ว และหายใจเร็ว
– มือ เท้าเย็
– เหงื่อออกมาก
– บวมที่ขา มักพบในเด็กโต
– ดูดนมลำบาก
การรักษา
1. การให้การรักษาแบบประคับประคอง
– การดูแลให้ผู้ป่วยพัก นอนในท่าศีรษะสูง
– การให้ออกซิเจน
– การให้สารอาหารอย่างเพียงพอ ควรจำกัดน้ำและเกลือแร่ ในปริมาณที่พอเหมาะ
– การให้นารักษาภาวะหัวใจล้มเหลว เช่น ยาเพิ่มประสิทธิภาพการบีบตัวของกล้ามเนื้อหัวใจ ยาขับปัสสาวะ
– ค้นหาและรักษาสาเหตุของภาวะหัวใจล้มเหลวได้โดยการใช้ยาหรือการทำผ่าตัดเพื่อแก้ไขพยาธิสภาพนั้น
2. ภาวะทุพโภชนาการ และน้ำหนักตัวต่ำกว่าเกณฑ์
สาเหตุ
1. เหนื่อยง่าย , เบื่ออาหาร , กินได้น้อยและอาเจียน ทั้งจากหัวใจล้มเหลว , ภาวะเขียวและผลข้างเคียงของยา
2. การดูดซึมไม่ดี
3. ความต้องการอาหารของร่างกายเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในเด็กโรคหัวใจที่มีปัญหาภาวะหัวใจวาย หรือภาวะความดันในปอดสูง
การดูแล
1. ให้อาหารที่พลังงานและโปรตีนสูงร่วมกับการจำกัดปริมาณน้ำเกลือแร่ เช่น นมสูตรพิเศษ
2. วิธีการให้อาหารในผู้ป่วยเด็กโรคหัวใจทารกให้อาหารครั้งละน้อย ๆ แต่บ่อยครั้งอาจให้ทุก 2– 3 ชั่วโมง เด็กโต (อายุ มากกว่า 1 ปี) ให้ห่างขึ้นเป็นทุก 4 ชั่วโมง เว้นกลางคืน
3. การติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ
สาเหตุ
เนื่องจากมีพยาธิสภาพจากโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด
โรคที่พบบ่อยที่สุด
คือ ปอดบวม (Pneumonia)
การดูแล
1. รักษาร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ
2. พักผ่อนให้เพียงพอ
3. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่ เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับร่างกาย
4. ดูแลทำความสะอาดปาก และฟันอยู่เสมอเมื่อมีปัญหาฟันผุ ให้ไปพบแพทย์
5. รักษาภาวะติดเชื้อควบคู่กับภาวะหัวใจวายเสมอ
6. การสังเกตอาการที่บ่งชี้ว่ามีการติดเชื้อที่ระบบทางเดินหายใจ คือ การมีไข้ ไอมีเสมหะ หายใจหอบเหนื่อย
4. ภาวะเขียวกระทันหัน
เป็นภาวะที่พบในผู้ป่วยโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดชนิดเขียว โดยที่ผู้ป่วยจะมาการเขียวคล้ำมากกว่าปกติ ร่วมกับมีอาการหอบลึก ในกรณีที่อาการรุนแรง อาจมีอาการตัวเกร็ง เป็นลมหมดสติได้
สาเหตุ
มีภาวะซีดจากการขาดธาตุเหล็ก มีไข้ ร้องนาน ๆ หรืออกกำลังกายจนเหนื่อยมาก โดยมักจะเกิดในช่วงเช้า
การป้องกัน
1. ระวังอย่าให้เด็กขาดน้ำ
2. ให้รับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กมาก ๆ เช่น ไข่ ตับ และผัดใบเขียว เป็นต้น
3. รับประทานยาตามที่แพทย์สั่งเสมอ
เมื่อผู้ป่วยมีภาวะเขียวกระทันหัน ให้จับเด็กนั่งยอง ๆ หรืออุ้มพาดบ่าเอาเข่าชิดหน้าอก ถ้าอาการไม่ดีขึ้น ให้รีบพาเด็กมาพบแพทย์
การดูแลทั่วไปของเด็กที่เป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด
1. ด้านโภชนาการ
น้ำนมมารดาเป็นอาหารที่ดีที่สุดในวัยทารก แต่ในบางรายแพทย์อาจแนะนำให้ใช้สูตรน้ำนมพิเศษ เพื่อเด็กจะได่รับสานอาหารเพิ่มขึ้น หลักในการให้นมหรือสารอาหารในเด็กเหล่านี้ ควรให้อาหารหรือนมครั้งละน้อย ๆ แต่ให้บ่อยครั้ง ในเด็กที่มีอาการเขียว ควรได้รับวิตามิน และธาตุเหล็กเพิ่มขึ้น
2. ด้านการออกกำลังกาย
ผู้ป่วยสามารถออกกำลังกายหรือเล่นเท่าที่เด็กสามารถทำได้ ยกเว้นในบางรายที่ไม่ควรให้ออกกำลังกาย ที่เป็นการแข่งขัน หรือการเล่นที่รุนแรง
3. การดูแลสุขภาพเหงือก และฟัน
การมีสุขภาพของเหงือกและฟันที่ดีมีความจำเป็นอย่างมาก สำหรับเด็กที่มีโรคหัวใจ เนื่องจากโรคของเหงือกและฟันเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดการติดเชื้อของลิ้นหัวใจและหลอดเลือด หรือฝีในสมอง ดังนั้นควรงดขนมหวาน หรือน้ำผลไม้ในตอนกลางคืน และไม่ควรคาขวดนมที่เด็กดูดในขณะนอน หมั่นดูแลในเรื่องการแปรงฟันของเด็กโดยผู้ปกครอง ควรเป็นผู้แปรงฟันให้เด็ก จนกระทั่งเด็กอายุ 6-7 ปี
ในกรณีที่มีฟันผุควรรีบปรึกษาทันตแพทย์ ในการพบกับทันตแพทย์ต้องบอกทุกครั้งว่า เด็กเป็นโรคหัวใจ เพื่อที่แพทย์จะให้รับประทานยาปฏิชีวนะ ก่อนการทำฟันเพื่อป้องกันการเกิดการติดเชื้อของลิ้นและผนังหัวใจ
4. การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรค
ควรได้รับวัคซีนเหมือนเด็กปกติ แต่จะมีการให้ภูมิคุ้มกันเพิ่มเติมในผู้ป่วยโรคหัวใจบางชนิด เช่น ผู้ป่วยโรคหัวใจที่ได้รับยาแอสไพริน ควรได้รับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวหัดใหญ่ในขณะที่มีการระบาดของโรคนี้ด้วย
5. การป้องกันการเจ็บป่วย
ควรป้องกันโดยไม่นำเด็กเข้าใกล้ผู้ป่วย และไม่นำเด็กเข้าไปในที่ชุมนุมชน เช่น ห้างสรรพสินค้า โดยเฉพาะเด็กเล็ก ๆ
6. การป้องกันการเกิดโรคแทรกซ้อน
โรคแทรกซ้อนที่สำคัญ ได้แก่ การติดเชื้อของลิ้นและผนังหัวใจ ซึ่งเกิดจากการที่มีเชื้อแบคทีเรีย เข้าในกระแสเลือด ในระหว่างการทำฟัน หรือการผ่าตัด สามารถลดหรือป้องกันได้โดย การให้เด็กรับประทานยาปฏิชีวนะก่อนการทำฟัน หรือการผ่าตัด ตามคำแนะนำของแพทย์ ส่วนเด็กโรคหัวใจที่มีอาการเขียวอย่างเดียวควรระวังการขาดน้ำ โดยเฉพาะในเวลามีไข้หรืออาเจียน เพื่อป้องกันการเกิดภาวะเขียวกะทันหัน
5. โรคลิ้นหัวใจติดเชื้อ (IE)
ท่านสามารถเรียนรู้ได้จากวิดีโอการ์ตูนสำหรับเด็ก เรื่อง แอนนี่ผจญภัย ตอนท่องโรค IE